เข้าใจวัฒนธรรมอินโดและเคล็ดลับการปรับแบรนด์ให้เข้ากับตลาดอินโดนีเซีย
สำหรับแบรนด์ที่มี positioning ชัดเจน และต้องการสร้างฐานลูกค้าอย่างยั่งยืนในอินโดนีเซีย
5/1/20251 นาทีอ่าน
1. ใบรับรองฮาลาล: เริ่มเตรียมตัวไว้ก่อน แต่ยังไม่จำเป็นต้องมีสำหรับการ launch สินค้า
กฎหมายฮาลาลของอินโดนีเซียกำหนดให้เครื่องสำอางทุกชนิดที่จำหน่ายภายในประเทศต้องมีใบรับรองฮาลาลภายในเดือนตุลาคม 2026 — แต่ในปี 2025 ยังมีแบรนด์ต่างประเทศหลายรายที่จำหน่ายสินค้าโดยยังไม่ได้รับใบรับรอง
ในปัจจุบัน เครื่องสำอางจำนวนมากที่วางขายโดยเฉพาะในช่องทาง e-commerce และ modern trade ยังไม่มีใบรับรองฮาลาล อย่างไรก็ตาม การมีภาพลักษณ์ที่เป็นฮาลาลยังคงสำคัญมากในตลาดมุสลิม
แนวทางที่แนะนำ:
เปิดตัวสินค้าได้แม้ยังไม่มีใบรับรองฮาลาล — แต่ควรโปร่งใสเกี่ยวกับส่วนผสม
เริ่มต้นกระบวนการขอใบรับรองฮาลาลไปพร้อมกัน หากมีใบรับรองฮาลาลของไทยอยู่แล้ว แนวโน้มการขอใบรับรองของอินโดจะง่ายขึ้น
2. เลือก SKU ที่เหมาะกับความต้องการของอินโด
ผู้บริโภคอินโดนีเซียมีสภาพอากาศชื้นคล้ายกับไทย และมักประสบปัญหาผิวจากมลภาวะ สิว หรือการผลัดเซลล์ผิวมากเกินไป ผู้หญิงจำนวนมากสวมฮิญาบ ส่งผลต่อการดูแลหนังศีรษะและผิวหน้า ความสะอาดของร่างกายเป็นเทรนด์ที่เติบโต และเครื่องสำอางราคาจับต้องได้กำลังได้รับความนิยมจากกระแสโซเชียลมีเดีย
กลุ่มสินค้าที่ได้รับความนิยมในท้องถิ่น:
สเปรย์น้ำหอม และผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย
เมคอัพราคาย่อมเยาสำหรับวัยรุ่น
ครีมกันแดดเนื้อบางเบา ไม่เหนียวเหนอะหนะ
ผลิตภัณฑ์ดูแลหนังศีรษะสำหรับผู้สวมฮิญาบ
เซรั่มและมอยเจอร์ไรเซอร์ที่ช่วยซ่อมแซมเกราะผิว
ทรีตเมนต์แต้มสิวแบบเฉพาะจุด
เริ่มจาก SKU จำนวนน้อย (เช่น 3–5 รายการ) เพื่อทดสอบตลาดและเน้นย้ำจุดแข็งของแบรนด์
เคล็ดลับ: เสนอไซส์มินิหรือชุดทดลองเพื่อส่งเสริมการลองใช้สินค้า
3. จาการ์ตาคือตลาดที่ใหญ่ที่สุด — และมีค่าใช้จ่ายในการเปิดตัวสูงที่สุด
อินโดนีเซียประกอบด้วยหมู่เกาะกว่า 17,000 แห่ง และกลุ่มชาติพันธุ์หลากหลาย ความชอบของผู้บริโภคจึงแตกต่างกันไปในแต่ละภูมิภาค การเลือกพื้นที่ทำตลาดต้องพิจารณาด้านโลจิสติกส์และข้อจำกัดในแต่ละพื้นที่อย่างรอบคอบ
จาการ์ตายังคงเป็นตลาดเครื่องสำอางที่พัฒนาแล้วที่สุด — กำลังซื้อสูง และผู้บริโภคกลุ่มพรีเมียมมีความหนาแน่น หากแบรนด์ของคุณอยู่ในกลุ่ม mid-premium ขึ้นไป (ราคามากกว่า 200,000 รูเปียห์ หรือประมาณ 400 บาท) จาการ์ตาอาจเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี แต่ต้องเตรียมรับมือกับการแข่งขันสูง โดยเฉพาะในด้านค่าใช้จ่ายของ influencer, shelf space และกิจกรรมส่งเสริมการขาย
ตลาดอื่นที่ควรพิจารณา:
West Java
Surabaya และ East Java
เมืองรอง เช่น Medan หรือ Makassar
บาหลี — เป็นตลาดเฉพาะทางที่เหมาะกับผลิตภัณฑ์แนวธรรมชาติ ออร์แกนิก หรือสปา
4. รักษาเอกลักษณ์ของแบรนด์ไทย พร้อมปรับให้เข้ากับผู้บริโภคท้องถิ่น
ผู้บริโภคอินโดนีเซียเชื่อมั่นในแบรนด์ไทยมาก — มองว่าเป็นสินค้าคุณภาพสูง ปลอดภัย และมาจากธรรมชาติ แบรนด์ไม่จำเป็นต้อง localize ทั้งหมด แต่ควรถ่ายทอดเรื่องราวแบรนด์ในลักษณะที่เหมาะสมกับตลาดอินโด
ผู้บริโภครุ่นใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มมิลเลนเนียลและ Gen Z ให้ความสำคัญกับจริยธรรมและสิ่งแวดล้อม แบรนด์ที่เน้นการไม่ทดลองกับสัตว์ การใช้วัตถุดิบที่ยั่งยืน และบรรจุภัณฑ์รักษ์โลก จะเป็นที่ยอมรับในตลาด ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติหรือออร์แกนิกได้รับการตอบรับดี การสื่อสารเรื่องการผลิตและ CSR จะช่วยเสริมภาพลักษณ์แบรนด์ได้อีกทาง
5. เข้าใจระบบการตลาดของอินโดนีเซียให้ดี
แม้ว่าการเข้าร้านอย่าง Watsons, Sociolla หรือ Guardian จะสำคัญ แต่พฤติกรรมผู้บริโภคอินโดนีเซียในปัจจุบันได้รับอิทธิพลจากโซเชียลมีเดียและอีคอมเมิร์ซอย่างมาก แบรนด์ควรเข้าใจระบบการจัดจำหน่ายและการตลาดเหล่านี้ เพราะร้านค้าปลีกต่างคาดหวังว่าแบรนด์จะสามารถสร้าง demand ผ่านช่องทางเหล่านี้ได้:
เปิดร้าน Shopee และ Tokopedia พร้อมคำอธิบายสินค้าภาษาอินโดนีเซีย รีวิวจากลูกค้า local และการตอบคำถามแบบ local
ใช้ WhatsApp group — อินโดนีเซียใช้ WhatsApp ในการขายและติดต่อมาก
จัดกิจกรรม pop-up เพื่อสร้างการรับรู้ในเมืองใหญ่ (Tier-1 และ 2)
ทำ influencer marketing แบบเน้นความน่าเชื่อถือ มากกว่าจำนวนผู้ติดตาม เช่น:
Micro to mid-tier KOLs (5,000 – 50,000 followers)
Beauty creators สายฮิญาบ ที่รีวิวการใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน
TikTok-first creators ที่สื่อสารด้วยอารมณ์ขันและรีวิวจริงใจ
เป้าหมายคือการเรียนรู้ว่าอะไร “โดนใจ” ไม่ใช่ยอดขายระยะสั้น
ข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้คุณปรับ SKU, ราคา และข้อความแบรนด์ให้เหมาะ ก่อนขยายตลาดในระดับประเทศ
อินโดนีเซียเป็นหนึ่งในตลาดความงามที่มีศักยภาพสูงที่สุดในเอเชีย — ขนาดใหญ่ ประชากรส่วนใหญ่เป็นคนรุ่นใหม่ ใช้โซเชียลมีเดียอย่างแพร่หลาย และยังมีช่องว่างอีกมากในหลายหมวดหมู่สินค้า แต่ที่สำคัญคือตลาดนี้ไม่ใช่แค่ “ตลาดไทย แค่ใหญ่ขึ้น” เท่านั้น เพราะบริบททางวัฒนธรรม ความอ่อนไหวด้านราคา และพฤติกรรมผู้บริโภคแตกต่างกันอย่างชัดเจนในแต่ละภูมิภาค
ทำไมถึงเลือก Allureth สำหรับการขยายธุรกิจสู่ตลาดอินโดนีเซีย?
อินโดนีเซียอาจดูน่ากลัวสำหรับผู้ประกอบการหลายๆท่าน
ทั้งภูมิศาสตร์ที่มีหลายภูมิภาคและเกาะต่าง ๆ ทำให้มีตลาดที่แตกต่างกันในแต่ละพื้นที่ ขนาดของประเทศที่กว้างใหญ่ และลักษณะทางวัฒนธรรมที่หลากหลาย
แล้วจะเริ่มจากที่ไหน? ต้องการลองตลาดกี่แห่ง? ช่องทางการจัดจำหน่ายแบบไหนที่เหมาะสม?
ด้วยความเข้าใจลึกซึ้งในทั้งตลาดความงามของไทยและอินโดนีเซีย Allureth พร้อมที่จะให้ประสบการณ์การเข้าสู่ตลาดอย่างราบรื่น:
ความเชี่ยวชาญด้านกฎระเบียบ: ทีมงานของเราจะช่วยคุณนำทางผ่านกระบวนการด้านใบรับรองที่ซับซ้อนได้อย่างไม่ต้องกังวล
ความรู้ลึกในตลาดท้องถิ่น: เราเข้าใจความต้องการของผู้บริโภคอินโดนีเซียและพลวัตของตลาด
เครือข่ายที่เชื่อถือได้: เข้าถึงเครือข่ายตัวแทนจำหน่ายและพันธมิตรทางการตลาดที่น่าเชื่อถือ
การสนับสนุนตั้งแต่ต้นจนจบและอย่างต่อเนื่อง: จากการให้คำปรึกษาในช่วงเริ่มต้นจนถึงการเปิดตัวและการสนับสนุนหลังจากนั้น
พันธมิตรที่เชื่อถือได้: เราเป็นทีมงานคนไทยที่พูดภาษาไทย เข้าใจความต้องการ เราคือพันธมิตรที่คุณไว้วางใจ